Content, Creative, Facebook, LINE Ads Platform, Online Marketing, TikTok, YouTube

7 สิ่งต้องคิด เพื่อพิชิตจุดสำเร็จของการโฆษณาออนไลน์

Less than a minute to read
โฆษณาออนไลน์

        หากพูดถึงออนไลน์ การทำโฆษณาบนออนไลน์เป็นอะไรที่รายละเอียดเยอะมากครับ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา Facebook, Instagram, YouTube หรืออะไรก็ตาม ถึงแม้ว่าคุณจะจ้างเอเจนซี่โฆษณาก็ไม่ใช่ว่าโยนให้เขาคิดทุกอย่าง เพราะมันคือธุรกิจของคุณ คุณคือคนที่รู้จักดีที่สุด และต่อให้คุณจะมีสินค้าหรือบริการที่ดีเลิศเลอ แต่ถ้าคุณไม่สามารถหาวิธีสื่อสารให้ตรงไปถึงใจลูกค้า ทุกอย่างก็จะเปล่าประโยชน์ การโฆษณาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากครับที่จะสร้างการรับรู้ของแบรนด์ให้กับลูกค้า ซึ่งการทำโฆษณาที่ดีควรจะได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในขณะที่ใช้งบประมาณให้ได้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเฉพาะกับธุรกิจขนาดเล็กไปจนขนาดกลาง โฆษณาบนออนไลน์สร้างประโยชน์ให้กับคุณได้อย่างมหาศาล เพราะคุณสามารถเข้าถึงมันได้ด้วยจำนวนเงินที่น้อยกว่าสื่อหลัก และ(อาจจะ)ได้ผลลัพธ์ที่อิมแพคกว่าในแง่ของความ Viral (ในยุคปี 2020) ด้วยความที่มันเป็นสื่อเข้าถึงง่าย สามารถซื้อโฆษณาได้ด้วยตนเอง การแข่งขันก็เลยยิ่งสูง

        เรื่องนี้ผมมีเคล็ดลับครับ ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด ถ้าคุณสามารถจับจุดของโฆษณาบนโลกออนไลน์ได้แล้วล่ะก็ ไม่ว่าสมรภูมิไหนคุณก็เอาชนะได้ เพียงแต่คุณต้องเข้าใจมันจริง ๆ นะครับ แม้ว่าจะมีรายละเอียดมากมาย มีวิธีการล้านแปด แต่หัวใจหลักสำคัญของมันก็มีอยู่ครับ มาดูกันว่ามีอะไรบ้างใน 7 ข้อที่ต้องคิด เพื่อพิชิตจุดสำเร็จของโฆษณาบนโลกออนไลน์

1. กลุ่มเป้าหมาย

        เป็นอะไรที่คนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามหรือผิดพลาดครับ ด้วยการที่ทำตัวโฆษณาออกไปแบบที่สื่อสารกับคนกลุ่มกว้างมาก ๆ ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าพูดกับกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการเป็นพิเศษ ก่อนอื่นเลยสิ่งที่คุณต้องรู้คือกลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร ใครในที่นี้ให้ระบุออกมาอย่างละเอียดเลยว่า พวกเขาจะชอบอะไร มีพฤติกรรมแบบไหน อายุเท่าไหร่ อาศัยอยู่ที่ไหน ฯลฯ ยิ่งละเอียดเท่าไหร่ยิ่งดีครับ มันจะช่วยให้คุณมองภาพออกว่าคุณกำลังสื่อสารกับใคร ที่สำคัญคืออย่าโฟกัสแค่คนกลุ่มเดียว เพราะนั่นจะเป็นการเสียโอกาสที่จะได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ หรือกลุ่มที่อาจจะเป็นลูกค้าชั้นดีของคุณไปได้ เมื่อแยกออกมาหลากหลายกลุ่ม ทีนี้ตัวโฆษณาของคุณก็จะต้องสอดคล้องกับคนกลุ่มนั้น ๆ วิธีการสื่อสาร ภาษา คอนเทนต์ เหมือนเวลาคุณจะพูดกับคนในชีวิตแต่ละคนก็จะมีวิธีการหรือระดับภาษาที่แตกต่างกันนั่นแหละครับ

2. จุดขาย

        มันไม่สำคัญเลยว่าสินค้าของคุณจะ Niche ขนาดไหน เพราะโอกาสมีอยู่เสมอในธุรกิจทุกรูปแบบ หนึ่งในกุญแจสำคัญในการทำโฆษณาให้ประสบความสำเร็จก็คือ รู้วิธีการที่จะทำให้จุดเด่น/จุดขายของแบรนด์คุณเปล่งออร่าออกมา ซึ่งนั่นจะต้องโดดเด่นและแตกต่าง สื่อสารจุดขายออกไปหาลูกค้าให้ได้ครับ ให้เขารู้สึกว่าเขาต้องการแบรนด์ของคุณ และสิ่งที่คุณจะให้ก็ไม่สามารถหาที่ไหนได้อีกแล้วโดยเฉพาะในแบรนด์ของคู่แข่งคุณเอง

3. ภาพลักษณ์

        ลองนึกถึงโลโก้ของแบรนด์ระดับโลกต่าง ๆ สิครับว่าเป็นอะไรที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเองและจดจำได้ง่ายสุด ๆ นั่นแหละครับ คุณต้องสร้างภาพลักษณ์ให้เป็นที่จดจำแก่ลูกค้า ซึ่งสิ่งที่สร้างได้ง่ายที่สุดก็เห็นจะเป็นภาพนี่ล่ะครับ เพราะมนุษย์จดจำสิ่งต่าง ๆ แบบเป็นภาพได้ดีกว่าตัวอักษร ทั้งโลโก้และอาร์ตเวิร์คต่าง ๆ ต้องไปในทิศทางเดียวกัน มีจุดให้จดจำเพื่อลูกค้าจะได้มองภาพลักษณ์ของธุรกิจเป็นแบบที่คุณต้องการ อย่างสำนวนที่บอกว่า อย่าตัดสินหนังสือที่ปก มันก็จริงล่ะครับ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ผมโกหกไม่ได้ว่าภาพลักษณ์มีส่วนสำคัญมากในการสื่อสารทางธุรกิจ จำไว้เลยครับว่า Image ของแบรนด์นั้นช่วยเปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้าหาคุณ เรียกว่าเป็นประตูบานแรกในการรู้จักกันเลยก็ว่าได้นะ

4. มีเดีย และตำแหน่งการโฆษณาออนไลน์

        Media และ Placement เป็นสิ่งที่มาคู่กันเสมอ ก่อนที่คุณจะออกโฆษณาแต่ละตัว เมื่อรู้แล้วว่าจะสื่อสารกับใคร ก็ต้องคิดต่อว่าจะใช้มีเดียอะไรในการสื่อสาร ในปัจจุบันมีเดียยอดฮิตก็จะเป็นภาพนิ่งไม่ก็คลิป เมื่อคุณตัดสินใจในการใช้มีเดียแล้วว่าจะใช้อะไร ก็ต้องดูที่ Placement หรือตำแหน่งการจัดวาง ไม่ใช่ว่าการแพร่กระจายโฆษณาไปทุกที่ทั่วทุกภาคส่วนจะไม่ดีนะครับ แต่บางทีมันจะทำให้เปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุถ้าโฆษณาของคุณไปโชว์ในที่ที่กลุ่มเป้าหมายไม่ได้สนใจ ก็เหมือนกับเสียเงินไปฟรี ๆ นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่หลาย ๆ คนมองข้าม กะว่าโชว์เยอะไว้ก่อนแหละ แต่ผมว่าลองมองมีเดียที่กลุ่มเป้าหมายจะชอบ ให้ไปแสดงผลในที่ที่กลุ่มเป้าหมายจะดู ผลลัพธ์น่าจะออกมาดีกว่านะครับ

5. งบประมาณ

        ถ้าว่ากันตามตรง เงินในการโฆษณาเยอะก็ดีกว่าน้อยนะครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าเงินทุนในการโฆษณาของคุณจะต้องใช้เยอะเป็นแสนเป็นล้านในทุก ๆ เดือน การกำหนดงบประมาณในการโฆษณาต้องคำนึงถึงเงินทุนที่คุณมีด้วยนะครับ เพราะถ้าคุณเพิ่งเริ่มทำโฆษณาใหม่ ๆ ก็เตรียมใจไว้ได้เลยว่ามันคือการสร้าง Brand Awareness ให้คนรู้จักสินค้าของคุณในระดับหนึ่งก่อน แล้วต่อมาถึงจะขายได้ด้วยการยิงโฆษณาไปซ้ำเพื่อกระตุ้นการซื้อ ดังนั้นในช่วงแรกอาจจะยังได้ผลกำไรอย่างไม่เป็นที่น่าพอใจ แต่เมื่อคุณทำไปสักพักก็จะเริ่มเข้าใจว่าคุณควรกำหนดงบประมาณสำหรับการทำโฆษณาเท่าไหร่กันแน่ วิธีคิดที่ผมจะแนะนำก็คือ กำหนดไปว่าแต่ละเดือนจะใช้อย่างมากเท่าไหร่ เช่น จะใช้เดือนละ 30,000 ซึ่งคุณไม่มีทางใช้เท่ากันทุกเดือนหรอกครับ บางเดือนอาจจะมากหรือน้อยกว่านั้น เพราะการขายสินค้ามักมีช่วง High และช่วง Low เหตุผลที่ผมอยากให้กำหนดเป็นตัวเลขกลม ๆ ไว้สำหรับแต่ละเดือนก็เพื่อที่จะวางแผนการทำการตลาดในแต่ละเดือนหรือแต่ละไตรมาสได้อย่างเหมาะสม

6. จุดยืน

        คุณต้องมีจุดยืนสำหรับธุรกิจด้วยว่าอยากจะเป็นธุรกิจแบบไหน ซึ่งจุดยืนตรงนี้จะแตกต่างจากจุดขายนะครับ จุดขายคือแบรนด์หรือสินค้าของคุณจะมอบอะไรให้กับลูกค้าเพื่อให้เกิดการตัดสินใจซื้อ แต่จุดยืนคือธุรกิจของคุณจะเติบโตไปเป็นแบบไหน เช่น เป็นแบรนด์ที่จะทำให้ผู้คนสุขภาพดี เป็นร้านอาหารที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ เป็นต้น มันสอดคล้องกับการสร้างภาพลักษณ์นั่นแหละครับ แต่จุดยืนคือหัวใจที่อยู่ลึกลงไปในตัวของธุรกิจ

7. แพลนการทำงาน

         คิดไว้เสมอครับว่าการโฆษณาออนไลน์ไม่ใช่สิ่งที่ได้มาเพราะดวงหรือโชคช่วย คุณต้องวางแผนแล้วทำตามแผนให้ได้ เมื่อทำไม่ได้ก็ต้องแก้ปัญหาจนได้ผลลัพธ์ที่ดี การทำโฆษณาบนโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่ห้ามหยุดทดสอบ ห้ามหยุดเรียนรู้ ห้ามหยุดอัพเดท ดังนั้นคุณต้องแพลนการทำโฆษณาให้ดี ต้องมีตารางในการมอนิเตอร์โฆษณาอยู่ตลอด คอยเช็คว่าลูกค้าส่วนใหญ่มาจากช่องทางไหนอย่างไร สรุปผลว่าวิธีไหนที่ทำให้โฆษณาทำงานได้ดี

        นี่แหละครับคือ 7 สิ่งที่คุณต้องคิดเพื่อพิชิตจุดสำเร็จของการโฆษณาออนไลน์ สำคัญมากนะครับ แต่ละเรื่องต้องใช้เวลาในการคิดพิจารณาพอสมควร แนะนำให้ลิสต์ออกมาเป็นข้อ ๆ แล้วเอามาวิเคราะห์เป็นภาพรวมครับ จากนั้นก็ย่อยออกมาเป็นแผนการทำโฆษณาในแต่ละช่วง เพราะทุกข้อนั้นมีผลเกี่ยวโยงซึ่งกันและกันหมดไม่สามารถคิดแยกก้อนกันได้


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า