LINE MyShop ฟีเจอร์ใหม่ ในตอนเริ่มแรก Application LINE เหมือนจะเป็นเพียงแอปสำหรับแชทก็เท่านั้นเองใช่ไหมล่ะครับ แต่ในวันนี้ผมรู้เลยว่า LINE ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีความสำคัญในภาคธุรกิจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศไทย ร้อยทั้งร้อยของนักธุรกิจยิ่งถ้าเป็นคนขายของออนไลน์ ไม่มีทางเลยครับที่จะไม่มี LINE Account ถึงแม้ว่าอาจจะใช้มันเพียงแค่แชทกับลูกค้าก็เถอะ แต่ก็ต้องมี เพราะผมเชื่อว่านี่เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการปิดการขายที่มีประสิทธิภาพมาก ๆ เมื่อ LINE มองเห็นช่องทางตรงนี้ จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อเอื้ออำนวยในการขายของให้ออกมาง่ายที่สุด เห็นได้จากฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ LINE Official Account ที่ออกมาให้ใช้งานมากมาย
เปิดตัว LINE MyShop
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ สำหรับเครื่องมือตัวล่าสุดที่ไลน์ออกมาให้ชาวออนไลน์ได้ใช้กัน นั่นก็คือ LINE MyShop ซึ่งเป็นหน้าร้านออนไลน์สำหรับขายของโดยเฉพาะ ตัวนี้ใช้งานสะดวกมาก ๆ สำหรับคนขายก็สร้างเองได้ง่าย ๆ คนซื้อก็ช็อปสนุก และที่สำคัญคือ ฟรี! เพียงแค่ต้องมี LINE Official Account คุณก็สามารถเปิดใช้งานแล้วตั้งค่าได้ด้วยตัวเองเลยครับ เข้าไปเลยครับที่ https://linemyshop.com/ แล้วกดเปิดร้านค้าฟรีเลย
เมื่อคุณกดเปิดร้านค้าแล้วยอมรับเงื่อนไขข้อตกลง จากนั้นก็ใส่รายละเอียดต่าง ๆ ให้เรียบร้อย มันก็คือเหมือนเป็น Marketplace ย่อม ๆ หรือเรียกแบบบ้าน ๆ ก็เป็นตะกร้าสินค้านี่เองล่ะครับ โดยหน้าร้านของคุณสามารถส่งเป็นลิงก์ให้ลูกค้าได้ ทำเป็น Rich Menu ก็ได้ หรือกดรับ QR Code สำหรับวางหน้าร้านออฟไลน์ก็ยังได้เลยครับ
ที่เห็นนี่เป็นการตั้งค่าหลังบ้านของ LINE MyShop คุณสามารถเลือกวิธีการชำระเงินได้ทั้งผ่าน Rabbit LINE Pay หรือบัญชีธนาคารก็ได้ นอกจากนี้ยังเลือกวิธีการจัดส่งได้อีกด้วย (แอบบอกนิดว่ายิ่งหลายช่องทางยิ่งดีนะครับ) เอาง่าย ๆ คือเมื่อลูกค้าเข้าไปที่ช็อปของคุณ เลือกดูสินค้า เพิ่มสินค้าลงตะกร้า จากนั้นก็ชำระเงินได้ทันที นึกภาพการช็อปปิ้งใน Shopee เป็นอะไรประมาณนั้นนั่นแหละครับ ซึ่งความพิเศษของมันคือลูกค้าจะทำทุกอย่างเบ็ดเสร็จในแอปเดียวคือ LINE ไม่ต้องโหลดอะไรเพิ่มเติม ไม่ต้องสมัครสมาชิกหรือลงทะเบียนอะไรใหม่ทั้งสิ้น คือซื้อขายจ่ายเงินจบในไลน์เลย พอจะเข้าใจวิธีการทำงานของเจ้า LINE MyShop แล้วใช่ไหมครับ ทีนี้ผมจะสรุปความเจ๋งของมันให้คุณได้รู้เป็นข้อ ๆ กันไปเลย
ข้อดีของ LINE MyShop
1. ใช้งาน LINE MyShop ฟรี
ใช่แล้วครับ ฟรีทุกกระบวนการเพียงแค่มี LINE Official Account แต่แอบบอกนิดหนึ่งว่าถ้าคุณเปิดให้ลูกค้าชำระเงินผ่าน Rabbit LINE Pay ก็จะมีค่าธรรมเนียม 2.5% จากยอดขายที่ชำระผ่านช่องทางนี้ครับ แต่ฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เปิดให้ใช้งานคือฟรีจริง ๆ
2. LINE MyShop จบในแอปเดียว
เป็นการดึงจุดเด่นของแพลตฟอร์ม E-Commerce ต่าง ๆ มาไว้ด้วยกัน ทั้งระบบหน้าร้านที่ UX/UI น่าใช้งาน มี Product Catalog ให้เลื่อนดูเป็นหมวดหมู่ และระบบหลังร้านที่จัดการง่าย มีระเบียบ ตั้งแต่เรื่องของสต๊อคไปจนจัดทำใบสั่งซื้อและบิลออนไลน์ได้อีกต่างหาก สำหรับลูกค้าแล้ว ยิ่งขั้นตอนในการสั่งซื้อน้อยเท่าไหร่ยิ่งดีครับ นี่คืออีกสิ่งที่ต้องคำนึงเมื่อคุณขายของออนไลน์ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าลูกค้าต้องซื้อสินค้าโดยเข้าไปดูรายละเอียดใน Facebook แล้วแคปจอมาเพื่อถามในไลน์ จากนั้นต้องออกจากไลน์ไปโอนเงิน แล้วต้องแคปหน้าจอโอนเงินเพื่อมาส่งหลักฐานในไลน์อีก คิดดูว่าจะต้องเข้าออกแต่ละแอปกี่รอบกัน จึงเป็นเหตุผลให้ปัจจุบันหลาย ๆ แพลตฟอร์มพยายามทำให้การซื้อขายจบในที่เดียวนั่นเองครับ
3. มีโปรโมชัน
คุณสามารถจัดโปรโมชั่นร่วมกับ LINE POINTS ได้ เพื่อกระตุ้นยอดขาย เพราะในตอนนี้ผู้คนเริ่มหันมาใช้งาน E-Wallet กันมากขึ้น และ Rabbit LINE Pay ก็เป็นหนึ่งใน E-Wallet ที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทยครับผม
4. สั่งซื้อผ่านฟังก์ชันแชท
หลายคนอาจจะสงสัยว่าถ้าตั้งราคาไว้เท่านี้ แต่อยากลดราคาให้ลูกค้าโดยที่ยังซื้อผ่านระบบของ LINE MyShop อยู่จะทำอย่างไร ผมบอกเลยว่าสามารถทำได้ครับ เพียงแค่คุณตั้งราคาหรือมอบส่วนลดให้กับลูกค้าเป็นรายบุคคลแล้วส่งบิลให้ลูกค้าชำระเงินผ่านแชทใน MyShop (แต่ลูกค้าต้องเป็นคนทักมาเองนะครับ) นอกเหนือจากนี้เครื่องมือต่าง ๆ ยังช่วยอำนวยความสะดวกได้อีกมากมาย เช่น ตัวติดแท็กเพื่อแยกหมวดหมู่ลูกค้า ตัวกรองแชทตามสถานะการสั่งซื้อ เป็นต้น
5. มีความน่าเชื่อถือ
ด้วยระบบของ LINE Myshop ที่จัดทำมาเพื่ออำนวยความสะดวกแบบสุด ๆ หลักฐานต่าง ๆ ในการสั่งซื้อหรือชำระเงินจะออกมาในรูปแบบ E-Bill ทั้งหมด การดำเนินการต่าง ๆ จะถูกบันทึกไว้อย่างแน่นอนครับ นอกจากใช้สะดวกแล้วยังต้องปลอดภัยด้วย เพราะการซื้อของออนไลน์เครดิตเป็นเรื่องสำคัญมากทั้งสำหรับตัวผู้ขายและแพลตฟอร์มที่ให้บริการ
ใช้ง่ายจ่ายคล่องจริง ๆ ครับสำหรับ LINE MyShop คนซื้อสบายคนขายแฮปปี้ ทั้งดีทั้งฟรีขนาดนี้คงต้องทำแล้วล่ะครับ ผมบอกเสมอว่า LINE เป็นแพลตฟอร์มที่มีความใกล้ชิดกับลูกค้าสุด ๆ ยิ่งตลาด E-Commerce ดุเดือดขนาดนี้ ทั้งคนขายทั้งแพลตฟอร์มก็จะโตไปพร้อมกัน มีอะไรมาใหม่ถ้าไม่ได้เสียเงินอะไรมากมายผมแนะนำเลยว่าพลาดไม่ได้ แล้วในสถานการณ์ตอนนี้ที่มีทั้งฝุ่นและไวรัส ผมบอกเลยว่าออนไลน์นี่ไปได้ไกลแน่นอน ยิ่งช่องทางเยอะและง่าย ยิ่งมีโอกาสขายได้ชัวร์ครับ