Facebook, Online Marketing

Lookalike ยิง Ads หากลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน ได้ยอดขายกลับมา

1 min read
Lookalike Audience

4 กลุ่ม Facebook Lookalike น่าสนใจ … ยิง Ads ออกไป ยอดขายกลับมา

        กลุ่ม Lookalike หรือ กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน ของ Facebook Ads เป็นอีกหนึ่งการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่นิยมใช้ แต่การจะทำกลุ่มเป้าหมายนี้ได้ต้องมีสารตั้งต้นก่อน เช่น คุณมีกลุ่มคนที่มีส่วนร่วมกับเพจของคุณ ชื่อ กลุ่มA เมื่อสร้าง Lookalike จากกลุ่มนี้ คุณก็จะได้กลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีความคล้ายคลึงกับกลุ่ม A นี่คือคอนเซ็ปท์ในการทำ Lookalike Audience ครับ จะนิยมใช้สารตั้งต้นเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าของคุณจริง ๆ หรือเป็นกลุ่มที่ใช้กับโฆษณาแล้วยิงได้แม่น เกิดเป็นผลลัพธ์ที่ต้องการจริง ๆ นอกจากนี้การสร้างกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันก็จะมีความเข้มข้นตั้งแต่ 1% – 10% (ของประชากรในพื้นที่ที่คุณต้องการ) ยิ่งเปอร์เซ็นต์น้อย ยิ่งเข้มข้นมาก ถ้ากลุ่มเป้าหมายแค่หลักหมื่นหลักแสน ผมแนะนำให้ใช้เปอร์เซ็นต์อย่าสูงครับ แต่ถ้ากลุ่มเป้าหมายที่คุณมีกว้างมากเป็นระดับหลักล้านก็ใช้เปอร์เซ็นต์ที่เยอะขึ้นได้ไม่มีปัญหา เพราะถ้าเกิดกลุ่มเป้าหมายที่เป็นสารตั้งต้นไม่ใหญ่มาก แต่ดันเลือกเปอร์เซ็นต์ Lookalike เยอะ มีโอกาสเกิดความไม่แม่นยำได้สูงมากครับ

        และเมื่อไม่นานมานี้ Facecbook Lookalike ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีในการสร้าง (ซึ่งตามหลักของมันครับ เป็นการทยอยปรับ ตัวจัดการโฆษณาของบางคนอาจจะโดนปรับแล้ว แต่บางคนก็อาจจะยังไม่โดน) การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็คือ Facebook ได้เอา Country Targeting ออก จากเดิมการสร้าง Lookalike จะเป็นการสร้างจากประชากรในประเทศต่าง ๆ เช่น ไทย สหรัฐ เป็นต้น แต่ตอนนี้จะเปลี่ยนจากประเทศ เป็นที่ตั้ง (Location) แทน ซึ่งวิธีการตั้งค่าก็จะแตกต่างจากที่เคยเป็น เจ้าโลเคชั่นนี้คุณจะต้องไปตั้งค่ามันในระดับชุดโฆษณา (Ad Set) ซึ่งแตกต่างจากเดิมที่ทำเสร็จในขั้นตอนการสร้างกลุ่มเป้าหมายได้เลยครับ ข้อดีก็คือ คุณสามารถกำหนดพื้นที่กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ละเอียดยิ่งขึ้น แต่ข้อเสียก็คือคุณจะไม่สามารถดูขนาดของกลุ่มเป้าหมายที่ได้ในทันที ซึ่งนั่นก็จะกระทบกับการกำหนดงบประมาณนั่นเองครับ

        ทีนี้มาดูกันดีกว่าครับว่า เจ้า Lookalike Audience 4 กลุ่มที่น่าสนใจเนี่ย มีอะไรบ้าง บอกก่อนนะครับว่ากลุ่มที่ผมกำลังจะแนะนำ คุณควรจะต้องใช้มันร่วมกับ Facebook Pixel เพื่อกลุ่มเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพ อย่างที่บอกว่า Lookalike จะทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อมีสารตั้งต้นที่ดีครับ

การหากลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน

#1 Lookalike Audience ที่สร้างขึ้นมาจากคนที่เคยซื้อมาแล้วอย่างน้อย 2 ครั้ง

        Lookalike ประเภทแรกนี้ถูกสร้างขึ้นจากกลุ่มของคนที่เคยซื้อของจากธุรกิจของคุณมาแล้วอย่างน้อยสองครั้ง เหตุผลที่ต้องเป็น 2 ครั้งก็ไม่มีอะไรมากครับ คุณก็จะได้กลุ่มที่มีคุณภาพมากกว่าซื้อแค่ครั้งเดียว และกลุ่มนี้ก็กำลังอยู่ในช่วงที่จะมี Loyalty ต่อแบรนด์ของคุณแล้ว เนื่องจากมีการซื้อซ้ำแบบนี้ก็แปลว่าพวกเขาสามารถสนับสนุนธุรกิจของคุณได้ดีเลยล่ะ โดยกลุ่มที่ซื้อสินค้าของคุณ 2 ครั้งก็สร้างได้จาก กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง (Custom Audience) จากนั้นเลือกเว็บไซต์ เลือกพิกเซล Purchase ความถี่เป็น 2 ครั้งหรือมากกว่า

        จากนั้นก็ทำ Lookalike จากกลุ่มนี้ได้เลย แต่!! ถ้าคุณไม่มี Pixel ก็มีอีกวิธีนะครับ อย่างที่ผมบอกว่าผมแนะนำให้ทำคู่กับ Facebook Pixel แต่ถ้าไม่มีจริง ๆ ให้ขยันเก็บข้อมูลลูกค้าแล้วแยกเป็นหมวดหมู่ให้ชัด อย่างอันนี้คุณก็สามารถเอารายชื่อและข้อมูลลูกค้าที่ซื้อซ้ำ นำมาสร้างกลุ่มเป้าหมาย แล้วก็ทำ Lookalike จากกลุ่มนี้ได้ครับ

#2 Lookalike Audience ที่สร้างขึ้นมาจากคนที่เคยเข้าชม website ของคุณภายใน 3 วันล่าสุด

        ถ้าคุณยังไม่มีข้อมูลมากเพียงพอที่จะสร้าง Purchase Event ให้มีประสิทธิภาพ หรือ ไม่มีข้อมูลไฟล์ของลูกค้ามากเพียงพอเพื่อสร้าง Lookalike แบบด้านบน ลองวิธีนี้ก็ได้ครับ (แต่อันนี้ต้องมีพิกเซลเท่านั้นนะครับ) วิธีนี้เบสิคมาก ก็คือใช้กลุ่มคนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณภายใน 3 วันที่ผ่านมา จากนั้นก็นำไปสร้าง Lookalike

        เหตุผลที่ต้องเป็น 3 วัน เพราะเป็นค่าเฉลี่ยพื้นฐานของการจดจำแบรนด์ครับ เพราะโดยส่วนใหญ่ถ้าได้รับรู้ (Awareness) แล้วไม่ได้มีการเห็นโฆษณาหรือแบรนด์ซ้ำ ก็มีโอกาสลืมได้ภายใน 3 วัน แต่ถ้าได้เห็นซ้ำก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการจดจำมากยิ่งขึ้นนั่นเอง การเอากลุ่มนี้มาทำ Lookalike ก็มีโอกาสที่จะได้กลุ่มที่สนใจแบรนด์ของคุณเพิ่มขึ้นมาอีกเช่นกัน

#3 Lookalike Audience ที่สร้างขึ้นมาจากคนที่เคย Engage กับ Instagram ของคุณใน 90 วันล่าสุด

        กลุ่มนี้ก็สร้างจาก Custom Audience เช่นกันครับ โดยเลือกโปรไฟล์ Instagram จากนั้นสร้างกลุ่มที่ “มีส่วนร่วมกับโพสต์หรือโฆษณาใดๆ” (People who engaged with any post or ad) ผมมองว่ากลุ่มที่มีส่วนร่วมกับโพสต์หรือโฆษณา เป็นกลุ่มที่สนใจแบรนด์ของคุณในระดับหนึ่ง มีโอกาสที่กำลังตัดสินใจจะซื้อสินค้าของคุณก็ได้

        ในกรณีที่คุณรู้สึกว่ากลุ่มเป้าหมายที่ได้มายังเล็กอยู่ กลัวจะเป็นสารตั้งต้นได้ไม่ดี ลองเพิ่มเป็น 100 วันก็ได้นะครับ แต่แนะนำว่าไม่ควรเกินไปมากกว่านี้ สัก 3 เดือนกว่า ๆ ยังพอได้อยู่ครับ

#4 Lookalike Audience ที่สร้างขึ้นมาจากคนที่เคยซื้อสินค้าที่เฉพาะเจาะจง

        อันนี้จะเน้นสินค้าเป็นชิ้นเลยครับ เหมาะสำหรับเวลาที่คุณกำลังจะออกสินค้าตัวใหม่หรือสินค้าพิเศษ โดย Event สินค้าที่คุณเลือกสร้างเป็นกลุ่มเป้าหมาย ต้องเป็นสินค้าที่ใกล้เคียงกับตัวที่คุณจะซื้อโฆษณานะครับ เพราะเมื่อทำ Lookalike คุณก็จะได้เจอคนใหม่ ๆ ที่คล้ายกับลูกค้าที่ซื้อสินค้าชิ้นนั้น ๆ ไปแล้ว

        วิธีการเซ็ตก็ตามภาพเลยครับ ให้เลือก Purchase Event แล้วใส่ id สินค้าที่คุณตั้งไว้ หลังจากเซ็ตค่าเรียบร้อยก็นำไปทำ Lookalike ต่อได้เลย

        จริง ๆ แล้วคุณสามารถไปลองทำได้อีกหลายแบบเลยนะครับ ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีวัตถุประสงค์อะไรในการใช้กลุ่มเป้าหมายนั้น ๆ อย่างกลุ่มแรกที่สร้างจากคนที่ซื้อซ้ำก็จะได้ลูกค้าที่ Loyalty จริง ๆ แต่ถ้าเป็นอย่างกลุ่มที่ 4 ก็จะเหมาะกับสินค้าที่ต้องตัดสินใจซื้อรวดเร็ว กลุ่มที่ได้ก็จะมีทั้งลูกค้าระยะสั้นและระยะยาว แต่เชื่อผมเถอะครับว่าไม่ว่าคุณจะได้ลูกค้ากลุ่มแบบไหนมา ก็มีประโยชน์สำหรับแบรนด์ทั้งนั้น ลองนำไปปรับสร้างดูนะครับ อย่างที่ผมบอกว่าการมีเว็บไซต์นั้นเป็นเรื่องสำคัญ แต่ถ้ายังไม่พร้อมจะมีจริง ๆ ผมก็ได้แนะนำวิธีพลิกแพลงไปแล้วเนอะ ลองดูนะครับ

ที่มา : https://www.socialmediaexaminer.com 


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า